เคยสงสัยไหมว่าทำไมระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละค่าย แต่ละรุ่น ถึงไม่เหมือนกัน?
คำตอบคือ การใช้มาตรฐานการวัดระยะทางที่แต่ละแบรนด์ใช้แตกต่างกันนั่นเอง! วันนี้ เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับมาตรฐานยอดนิยม 4 แบบ ได้แก่ WLTP, NEDC, EPA และ CLTC พร้อมเปรียบเทียบจุดเด่น จุดด้อย และความแตกต่าง เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างชาญฉลาด
1. WLTP (Worldwide Harmonised Light Vehicle Test Procedure):
มาตรฐานใหม่ล่าสุดจากยุโรป เน้นการทดสอบที่สมจริงยิ่งขึ้น จำลองการใช้งานจริงบนถนนหลากหลายรูปแบบ ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง
ทดสอบในสภาพอากาศหลากหลาย
ครอบคลุมทั้งการขับขี่ในเมือง การเร่งแซง ความเร็วสูง
ให้ค่าระยะทางที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับการใช้งานจริง
กลายเป็นมาตรฐานหลักที่ใช้ทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศ
ตัวอย่างรถที่ใช้มาตรฐาน WLTP: MG ZS EV, ORA Good Cat, MINI Cooper SE
2. NEDC (New European Driving Cycle):
มาตรฐานเก่าจากยุโรป กำลังถูกทยอยยกเลิกใช้งาน
ทดสอบในสภาพอากาศที่ ideal ไม่สอดคล้องกับการใช้งานจริงซึ่งมีหลากหลายสภาพอากาศ
ให้ค่าระยะทางที่ค่อนข้างสูง
การทดสอบมีเงื่อนไขง่ายกว่า WLTP ระยะทางที่ได้มักจะดูสูงเกินจริง
ตัวอย่างรถที่ใช้มาตรฐาน NEDC: บางรุ่นของ Nissan Leaf, BMW i3
3. EPA (Environmental Protection Agency):
มาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา
เน้นการทดสอบที่เข้มข้นกว่ามาตรฐานอื่นๆ
จำลองการขับขี่แบบสมจริง
แบ่งการทดสอบเป็น 2 รูปแบบ บนทางหลวงและในเมือง
ให้ค่าระยะทางที่ค่อนข้างต่ำ
เน้นไปที่การประหยัดพลังงาน
ผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับการใช้งานจริง
ตัวอย่างรถที่ใช้มาตรฐาน NEDC: บางรุ่นของ Nissan Leaf, BMW i3
4. CLTC (China Light-Duty Vehicle Test Cycle):
มาตรฐานจากประเทศจีน
ทดสอบในสภาพอากาศหลากหลาย
จำลองการขับขี่แบบผสมผสาน
เน้นการทดสอบที่ 3 ย่านความเร็ว ต่ำ กลาง สูง
ให้ค่าระยะทางที่ค่อนข้างสูง
เน้นไปที่สมรรถนะของรถ
มาตรฐานจากประเทศจีน เน้นการทดสอบแบบผสมผสาน
แบ่งเป็น 3 แบบ คือ ความเร็ว ต่ำ กลาง และสูง
ระยะทางที่ได้มักจะดูสูงที่สุดเมื่อเทียบกับมาตรฐานอื่นๆ
ตัวอย่างรถที่ใช้มาตรฐาน CLTC: GWM Ora Cat, Xpeng P7
สรุป:
- มาตรฐาน WLTP ให้ค่าระยะทางที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากที่สุด
- มาตรฐาน NEDC ให้ค่าระยะทางที่สูงเกินจริง
- มาตรฐาน EPA เน้นไปที่การประหยัดพลังงาน
- มาตรฐาน CLTC เน้นไปที่สมรรถนะของรถ
นอกจากมาตรฐานข้างต้นแล้ว ยังมีมาตรฐานอื่นๆ ที่ใช้น้อยกว่า เช่น JC08 (ญี่ปุ่น) และ NRTC (อินเดีย)
อย่างไรก็ตาม ระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้ายังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เช่น สภาพอากาศ สไตล์การขับขี่ สภาพการจราจร การบรรทุกสิ่งของและผู้โดยสาร และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
การเปรียบเทียบมาตรฐานเหล่านี้ ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจข้อมูลระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง เลือกซื้อรถที่เหมาะสมกับความต้องการ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การเปรียบเทียบมาตรฐานต่างๆ เป็นเพียงแนวทางคร่าวๆ เท่านั้น ผู้ซื้อควรศึกษาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจ